วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

สะพานหิน ภูเก็ต

สะพานหิน ภูเก็ต
สะพานหิน
           สวนหย่อมขนาดใหญ่ภายในตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งที่ปลายสุดของสวนมีบริเวณที่ติดชายทะเลจัดเป็นสถานที่น่านั่งเล่นอีกแห่งนึง ภายในตัวเมืองภูเก็ต ที่มีความสวยงาม สงบ ร่มรื่นย์ ซึ่งทางเข้าสะพานหิน ภูเก็ตนั้นมีอนุสาวรีย์ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะบริเวณสะพานหิน เป็นที่เรือขุดแร่ลำแรกของโลกทำการขุดแร่ดีบุกจากอ่าวทุ่งคาซึ่งเป็นทะเลบริเวณสะพานหินขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก และยังเป็นจุดถ่ายภาพของนักท่องเที่ยวทั้งหลายคือ อนุสาวรีย์ระลึกถึงการขุดแร่ ซึ่งตัวอนุสาวรีย์มีลักษณะคล้าย เปลือกหอยขนาดยักษ์ และสะพานหินยังมีความสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ใช้เป็นที่ประกอบพิธีในเทศกาล ถือศีลกินผักหรือเทศกาลกินเจซึ่งที่ปลายของสะพานหินจะมีศาลเจ้าเป็นที่ใช้ในพิธีส่งวิญญาณกิ๋วอ๋องไต๋เต้
การเดินทาง
        จากสนามบินภูเก็ต ใช้เส้นทางหมายเลข 402 เข้าตัวเมืองภูเก็ต เมื่อเข้ามาถึงในตัวเมืองภูเก็ตขับรถตรงมาเรื่อยๆ ตามถนนภูเก็ต ถนนสายนี้จะนำไปสู่ปลายแหลมสะพานหิน ง่ายกว่านั้นคือการถามทางเอา ถ้าใครไม่รู้จักทางไปสะพานหิน ท่านนั้นก็เป็นนักท่องเที่ยวเช่นท่าน




วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

พระผุด วัดพระทอง ภูเก็ต

พระผุด ภูเก็ต

พระผุด ภูเก็ต

วัดพระทอง ภูเก็ต

วัดพระทอง ภูเก็ต

วัดพระทอง ภูเก็ต

วัดพระทอง ภูเก็ต


          เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้...ประโยคนี้ยังใช้ได้ดีจริง ๆ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย   อีกมากมายที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนยังไม่เคยเดินทางไปสัมผัส โดยเฉพาะสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Unseen Thailand เพราะฉะนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมเลยจะชวนเพื่อน ๆ ไปตื่นตาตื่นใจกับอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ของเมืองไทยกัน นั่นก็คือ พระผุด พระพุทธรูปผุดขึ้นจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ แต่จะอลังการงานสร้างขนาดไหนนั้น ตามไปเที่ยวกันเลย...

       หลวงพ่อพระทอง หรือ พระผุด ตั้งอยู่ภายใน วัดพระทอง หรือ วัดพระผุด ตำบลเทพกระษัตรีอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand ของจังหวัดภูเก็ต อีกทั้งยังเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แต่เดิมที่ตั้งของ วัดพระทอง เป็นทุ่งนากว้าง มีน้ำไหลผ่านลำคลอง มีทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงโค กระบือ ของชาวเมืองถลาง ในสมัยนั้นชาวบ้านเรียกว่า "ทุ่งนาใน" น้ำในลำคลองไหลมาจากน้ำตกโตนไทร ต่อมา "ทุ่งนาใน" ได้มีบ้านคนอยู่อาศัยมากขึ้น จึงถูกเรียกว่า "บ้านนาใน" ถึงทุกวันนี้

พระผุด ภูเก็ต

พระผุด ภูเก็ต

สำหรับความเป็นมาของ พระผุด ยังไม่มีหลักฐานที่บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร มีแต่คำบอกเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ที่เป็นคนไทย และคนจีนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองไทยเป็นเวลานาน และมีนิทานเล่าต่อ ๆ กันมาว่า มีเด็กจูงควายไปกินหญ้ากลางทุ่งนา และเอาเชือกผูกล่ามไว้กับพระเกตุมาลา เพราะคิดว่าเป็นไม้ พอกลับถึงบ้านเด็กตาย ควายก็ตาย ต่อมาพ่อของเด็กฝันถึงเหตุที่เด็กและควายตาย เนื่องจากลูกชายเอาเชือกล่ามควายไปผูกกับพระเกตุมาลา รุ่งขึ้นไปดูจึงรู้ว่าเป็นพระพุทธรูป แต่ ท่านพระครูสุวรรณพุทธาภิบาล ได้บันทึกไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 ซึ่งมีหลักฐาน ดังนี้…

หลวงพ่อพระทอง (พระผุด) ชาวบ้านคนไทยในจังหวัดภูเก็ต เรียกว่า "พระผุด" เพราะเป็นพระพุทธรูป ผุดเพียงพระเกตุมาลา สูงประมาณ 1 ศอก คนจีนเรียกว่า "ภู่ปุ๊ค" (พู่ฮุก) เพราะคนจีนเชื่อกันว่า พระผุด มาจากเมืองจีน คนจีนในภูเก็ต พังงา ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง และกระบี่ ต่างเคารพนับถือพระพุทธรูปองค์นี้มาก เมื่อถึงเทศกาลตรุษจีน (เดือน 3) ก็พากันมานมัสการ เป็นประเพณีมาจนถึงทุกวันนี้


พระผุด ภูเก็ต

พระผุด ภูเก็ต

ทั้งนี้ เหตุที่คนจีนอ้างว่า พระผุด มาจาดเมืองจีนนั้น มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมา เมื่อสมัยสองพันปีเศษ เมืองเซี่ยงไฮ้ของจีนมีพระพุทธรูป 3 องค์ โดยตระกูลเจ้าเมืองของจีน 3 พี่น้อง เป็นผู้สร้างพระพุทธรูปทองคำ 3 องค์ เล่ากันว่า พี่องค์แรกครองเมือง 25 ปี ไม่มีมเหสีและโอรสธิดา เมื่อสวรรคตองค์น้องที่สองได้ขึ้นครองราชย์ เก็บทองคำทั้งหมดหล่อเป็นพระพุทธรูป ไว้บูชาแทนองค์แรก องค์ที่ 2 ครองราชย์อยู่ 23 ปี ก็สวรรคต องค์น้องสุดท้องขึ้นครองราชย์ และเก็บเอาทองคำขององค์ที่ 2 ทั้งหมด หล่อเป็นพระพุทธรูป ซึ่งใหญ่กว่าองค์แรกเป็นพระพุทธรูปไว้บูชาแทนองค์กลาง น้ององค์ที่ 3 ครองราชย์ได้ 8 ปี ก็สวรรคต

เจ้าต่างเสวยราชย์ต่อจากองค์ที่ 3 ก็เก็บเอาทองของพระเจ้าแผ่นดินมาหล่อเป็นพระพุทธรูป รวมเป็นพระพุทธรูป 3 องค์ เป็นพระพุทธรูปที่สวยงามมาก ต่อมาเซี่ยงไฮ้ได้เสียให้แก่ชนชาวธิเบต ชาวธิเบตได้นำเอาพระพุทธรูป 1 ใน 3 องค์ ลงเรือมาทางทะเลเข้ามาทางมหาสมุทรอินเดียเพื่อไปประเทศธิเบต เรือเกิดล่ม พายุพัดเข้ามาชายฝั่งพังงา เรือจมลงมีการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกบริเวณเรือจม กลายเป็นเกาะในเวลาต่อมา บริเวณใกล้องค์พระพุทธรูป มีลำคลองไหลผ่าน เมื่อฝนตกหนักน้ำท่วมเซาะดินให้ต่ำลง หลวงพ่อก็โผล่ให้เห็นเพียงพระเกตุมาลา ส่วนองค์พระนั้นคงอยู่ใต้ดินยังขุดไม่ได้

ขณะที่ประวัติอีกหนึ่งเล่าว่า เมื่อคราวศึก พระเจ้าปะดุง ยกพลมาตีเมืองถลาง พ.ศ. 2328 ทหารพม่าพยายามขุดพระผุดเพื่อนำกลับไปพม่า แต่ขุดลงไปคราวใดก็มีฝูงแตนไล่ต่อย จนต้องละความพยายาม ต่อมาชาวบ้านได้นำทองหุ้มพระพุทธรูปที่ผุดจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ ดังปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบัน


วัดพระทอง ภูเก็ต

วัดพระทอง ภูเก็ต

นอกจากนี้ วัดพระทอง ยังเป็นที่ตั้งของ "พิพิธภัณฑสถานวัดพระทอง" เป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุข้าวของเครื่องใช้ของชาวภูเก็ต เช่น "จังซุ่ย" เสื้อกันฝนชาวเหมืองแร่ดีบุก รองเท้าตีนตุกของสตรีเชื้อสายจีน ที่ต้องมัดเท้าให้เล็กตามค่านิยมของสังคมสมัยนั้น พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น.


วัดพระทอง ภูเก็ต

วัดพระทอง ภูเก็ต

การเดินทาง

วัดพระทอง อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 21 กิโลเมตร ไปตามถนนเทพกษัตรีผ่านสี่แยกอำเภอถลาง ถึงที่ว่าการอำเภอถลางทางด้านขวาจะมีทางแยกเข้าวัดพระทอง

วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556

จุดชมวิวเขารัง ภูเก็ต

จุดชมวิวเขารัง ภูเก็ต

จุดชมวิวเขารัง ภูเก็ต
      

" เขารังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในเมืองภูเก็ตที่ไม่ควรพลาดเพราะเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากมีร้านอาหารสวนสุขภาพและสวนสาธารณะสำหรับออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ"



จุดชมวิวเขารัง
                สามารถชมความงดงามของเมืองภูเก็ตจากบนสุดของเขารังเราสามารถมองเห็นสถานที่ต่างๆจากมุมสูงและบนยอดเขามองเห็นทิวทัศน์รอบเมืองภูเก็ตได้อย่างสวยงามทั้งช่วงกลางวันโดยเฉพาะตอนเช้ามืดจะเห็นเป็นหมอกหนาและช่วงกลางคืนจะเห็นแสงไฟจากอาคารบ้านเรือนต่างๆส่องแสงงามระยิบระยับงามสวยงามไปอีกแบบนอกจากจะเป็นจุดชมวิวแล้วบนเขารังยังมีสวนสาธารณะและสวนสุขภาพไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายท่ามกลางธรรมชาติของพรรณไม้ต่างๆที่ร่มรื่น เขารังมีลักษณะเป็นเนินเขาเตี๊ย อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของตัวเมืองรถยนต์สามารถขึ้นไปจนถึงยอดเขาได้ ชื่อเขารังนั้นเพี้ยนมาจากคำว่าเขาหลังเพราะสมัยก่อนชาวภูเก็ตเห็นว่าที่นี่ตั้งอยู่ในทิศทางที่เป็นด้านหลังของเกาะนั่นเอง
จุดชมวิวเขารัง ภูเก็ต
  เขารังเป็นที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์พระยารัษฏานุประดิษฐ์มหิศรภักดี หรือ คอซิมบี้ ณ ระนอง ผู้ปกครงมณภูเก็ตที่ได้สร้างคุณูปการไว้มากมาย เช่นการสร้างถนนการตรา พ.ร.บ.เหมืองแร่ การริเริ่มปลูกยางในภาคใต้ ฯลฯ ทางจังหวัดภูเก็ตจึงได้สร้างไว้บนยอดเขารังเพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชาบริเวณเขารังมีร้านอาหารบรรยากาศดีพร้อมชมวิวสวยๆไปด้วยแต่ตอนกลางคืนค่อนข้างเปลี่ยวและอันตรายเพราะทางขึ้นยอดเขารังจะเป็นถนนคดลดเลี้ยวมีต้นไม้สองข้างทางเขียวขจี เขารังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองภูเก็ตที่บรรยากาศดีมองเห็นทัศนียภาพของภูเก็ตได้อย่างชัดเจนและสวยงามการเดินทางสะดวกอาหารอร่อยพร้อมวิวสวยๆ รับรองว่าการมาเที่ยวเขารังจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง


จุดชมวิวเขารัง ภูเก็ต

การเดินทางไปเขารัง

         จากสนามบินภูเก็ต ใช้เส้นทางหมายเลข 402 เข้าตัวเมืองภูเก็ต เมื่อถึงสี่แยกโรงเรียนสตรีภูเก็ต ให้เลี้ยวขวา เข้าถนนทุ่งคา ขับตรงไปผ่าน สี่แยกโรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน เข้าสู่ถนนแม่หลวน และเลี้ยวขวาที่สี่แยกเข้าถนนคอซิมบี้ ขับตามเส้นทางประมาณ 1.6 กิโลเมตร เข้าสู่เขารัง

วันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2556

สวนสัตว์ภูเก็ต (Phuket Zoo)

สวนสัตว์ภูเก็ต (Phuket Zoo)

                 สวนสัตว์ภูเก็ต เปิดเมื่อ พ.ศ. 2540 ตั้งอยู่ ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เป็นสวนสัตว์ขนาดเล็ก มีสัตว์หลายชนิดเช่น เสือ อูฐ กวาง ตัวเงินตัวทอง เสือดาว และ นกนานาชนิด เช่น นกออก นกแก้ว รูปปั้นจระเข้ขนาดยักษ์ซึ่งเป็นที่จัดแสดงสัตว์น้ำหลายพันธุ์ต่างๆ มีการแสดงต่างๆ เช่น โชว์ช้าง โชว์ลิง โชว์จระเข้ สวนไม้ดอกเป็นต้น

                  รายละเอียด : เป็นสวนสัตว์เอกชน บนพื้นที่ 62 ไร่ เหมาะการท่องเที่ยวเป็นครอบครัว มีการแสดงของช้าง และจระเข้ รอบการแสดง มีดังนี้ ลิงแสนรู้ 09.00, 12.00, 14.30 และ 16.45 น; ช้างแสนรู้ 103.0, 13.30 และ 16.30 น.; จับจระเข้ 09.30, 12.45, 15.15 และ 17.30 น.

                  สวนสัตว์ภูเก็ต อยู่ระหว่างเส้นทางจากตัวเมืองไปอ่าวฉลอง แล้วเลี้ยวซ้ายที่ซอยป่าหล่าย สวนสัตว์ภูเก็ตเป็นสวนสัตว์ขนาดเล็ก ในสวนสัตว์ มีสัตว์นานาชนิด อาทิ เสือ นกชนิดต่าง ๆ กวาง ม้าลาย อูฐ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการแสดงหลากหลายชนิดของสัตว์ชนิดต่างๆภายในสวนสัตว์ อาธิเช่น การแสดงช้าง การแสดงลิง การแสดงจระเข้ เป็นต้น สวนสัตว์ภูเก็ตมักเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนกันเป็นครอบครัว เป็นส่วนใหญ่
มีโชว์แสดงความสามารถของสัตว์ต่างๆ อาทิเช่น
- ลิงแสนรู้
- ช้างน่ารัก
- จระเข้
                   การแสดงชุดพิเศษมีดังนี้:
                 
           ลิงโชว์ : 09.00, 12.00, 14.30 และ 16.45 น.
           จระเข้โชว์ : 09.45, 12.45, 15.15 and 17.30 น.
           ช้างโชว์ : 10.30, 13.30 and 16.00 น.

http://www.phuketzoo.com

สวนสัตว์ภูเก็ต (Phuket Zoo)


สวนสัตว์ภูเก็ต (Phuket Zoo)


สวนสัตว์ภูเก็ต (Phuket Zoo)

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

หอชมวิวเขาขาด

หอชมวิวเขาขาด 

         
ตั้งอยู่บริเวณอ่าวมะขาม แหลมพันวา เป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต สามารถมองเห็นทัศนียภาพทั่วเกาะภูเก็ตได้ถึง 360 องศา อาทิ อ่าวฉลอง แหลมพันวา เกาะสิเหร่ เกาะบอน และเกาะน้อยใหญ่รอบ ๆ ภูเก็ต รวมทั้งตัวเมืองภูเก็ต


 
 
 
           สมัยก่อนเขาขาด เป็นเขาที่ชันมาก เวลาจะไปเที่ยวกันซักที โดยเฉพาะ ขี่มอเตอร์ไซค์ไป บางครั้ง (ถ้าไม่เจ๋งจริง) ต้องให้คนซ้อนลงเดิน แล้วขี่ขึ้นไปคนเดียว หรือบางทีก็เข็นขึ้นไปเลย เพราะนอกจากถนนจะชันมากแล้ว พื้นถนน ยังเป็นหินลูกลังอีก ถ้าพลาดลื่นล้มขึ้นมา มีหวัง...

           แต่ว่าเดี๋ยวนี้ เค้าพัฒนาแล้ว เขาขาดมีทางขึ้นที่สะดวกสบาย ราดยางมะตอยอย่างดี ถนนกว้างขวาง แถมข้างทางมีทางเท้า สำหรับเดินออกกำลังกาย อีกต่างหาก (ไปเดินทุกวัน รับรองไขมัน หายไปโขเลย) ส่วนบริเวณจุดชมวิว ก็มีที่จอดรถ กว้างขวาง สะดวกสบาย ข้างล่าง มีร้านขายของที่ระลึก และห้องน้ำสะอาด ไว้บริการด้วย (เสียตังนะ)

หอชมวิวเขาขาด เป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่ง ของจังหวัดภูเก็ต สร้างขึ้นตามโครงการของ องค์การบริหารส่วนตำบลวิชิต (อันนี้ต้องให้เครดิตเค้าหน่อย) ตั้งอยู่ในตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต บริเวณอ่าวมะขาม แหลมพันวา โดยการเดินทางนั้นไปได้หลายทาง แต่ที่สะดวกที่สุด และใช้เป็นเส้นทางในวันนี้ คือ เส้นทางถนนศักดิเดช ผ่านหมู่บ้านเมืองทอง เลียบคลองมุดง หนทางก็ดูซับซ้อนเล็กน้อย แต่ไม่สับสนแน่นอน เพราะเค้ามีป้ายบอกทาง อันเล็กๆ อยู่ตลอดแนวถนน
วันนี้ไปเที่ยวที่นี่กัน
สมัยก่อนเขาขาด เป็นเขาที่ชันมาก เวลาจะไปเที่ยวกันซักที โดยเฉพาะ ขี่มอเตอร์ไซค์ไป บางครั้ง (ถ้าไม่เจ๋งจริง) ต้องให้คนซ้อนลงเดิน แล้วขี่ขึ้นไปคนเดียว หรือบางทีก็เข็นขึ้นไปเลย เพราะนอกจากถนนจะชันมากแล้ว พื้นถนน ยังเป็นหินลูกลังอีก ถ้าพลาดลื่นล้มขึ้นมา มีหวัง...

แต่ว่าเดี๋ยวนี้ เค้าพัฒนาแล้ว เขาขาดมีทางขึ้นที่สะดวกสบาย ราดยางมะตอยอย่างดี ถนนกว้างขวาง แถมข้างทางมีทางเท้า สำหรับเดินออกกำลังกาย อีกต่างหาก (ไปเดินทุกวัน รับรองไขมัน หายไปโขเลย) ส่วนบริเวณจุดชมวิว ก็มีที่จอดรถ กว้างขวาง สะดวกสบาย ข้างล่าง มีร้านขายของที่ระลึก และห้องน้ำสะอาด ไว้บริการด้วย (เสียตังนะ)
ที่จอดรถกว้างขวาง สะดวกสบาย
ได้มีโอกาสไปเที่ยว ที่จุดชมวิวเขาขาด เลยเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ มาฝากเพื่อนๆ ด้วยหละ แหม...วิวบนนี้มองเห็นได้ 360 องศา อย่างที่เค้าว่ากันจริงๆ สามารถมองเห็นวิวเกาะภูเก็ต ได้ทั่วเลย ไม่ว่าจะเป็นอ่าวฉลอง แหลมพันวา เกาะสิเหร่ รวมทั้งตัวเมืองภูเก็ต ดีไม่ดี อาจมองเห็นไปถึงกระบี่เลย (อันหลังนี่แซวกันเล่นๆ แต่ถ้าจะให้เห็นจริงๆ คงต้องพึ่งตาทิพย์)
หอชมวิวเขาขาด
อย่างที่ปราชญ์ทั้งหลายท่านกล่าวไว้ การที่เราจะได้อะไรมานั้น ย่อมต้องมีอุปสรรค และต้องอาศัย การวัดใจกันสักหน่อย การได้ชมวิว ที่สวยงามของเกาะภูเก็ตก็เช่นกัน ต้องมีอุปสรรคมาขวางกั้น เพื่อที่จะทำให้ท่านได้รู้ว่า รสชาติของความสำเร็จนั้น มันหอมหวานเพียงไร (เป็นไงล่ะสำนวนเค้า) ที่เกริ่นมาทั้งหมดนี่ ไม่ใช่อะไรหรอก แค่อยากจะบอกว่า ทางขึ้นหอชมวิวเขาขาดนั้น ต้องผ่าน ด่านบันไดเป็นร้อยขั้น เนื่องด้วย หอชมวิวเขาขาดนี้ มีความสูงประมาณตึก 3-4 ชั้น ผู้ที่มีกำลังกาย และกำลังใจ เข้มแข็งเท่านั้น ที่จะฝ่าฟันไปได้
นี่แค่ครึ่งทาง นะจะบอกให้
ตัวหอชมวิวจริงๆ สูงประมาณ ตึก 3-4 ชั้น


แต่อะไรๆ ในโลกนี้ ก็ล้วนไม่เกินฝีมือมนุษย์ อย่างพวกเราๆ ท่านๆ แน่นอน วันนี้ก็เช่นกัน จากที่เป็นคนไม่ค่อยชอบออกแรง แต่ไหนๆ ก็มาถึงที่แล้ว เลยต้องลองดูซักตั้ง แต่แปลกเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ เดินไปเพลินๆ ถ่ายภาพไปด้วย แสนสุขใจ จนลืมเหนื่อยไปเลย

ขึ้นไปบนยอดหอชมวิว โอโฮอากาศดีจริงๆ วิวก็สวยมากๆ เล่นเอาหายเหนื่อยเลย แต่ที่น่าเสียดาย (อย่างแรง) ก็คือวันนั้นแดดดีไปหน่อย เลยทำให้ภาพ ที่ถ่ายมา ออกจะมัวๆ เพราะมีหมอกเต็มไปหมด อันนี้แถวบ้านเรียกอายแดด ...งง... ใครไม่รู้จะอธิบายให้ อายแดดก็คือ ละอองไอน้ำนั่นแหละ ไม่ใช่ว่าอายม้วนนะ อย่าเข้าใจผิด
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ลำแสงจาก เมืองบาดาล
บรรยากาศดีจริงๆ เสียดายไอน้ำเยอะ ไปหน่อย
ที่เห็นไกลๆ นั่น สะพานหิน เกาะสิเหร่ ส่วนเขาข้างหน้าก็คือ เขาโต๊ะแซะ
คลองมุดง เสียดายวันนี้น้ำลง เลยดูแห้งๆ
อ่าวมะขาม
ตัวเมืองภูเก็ต แบบเบลอๆ
แหลมพันวา
จากที่ได้พิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้ว พูดได้เต็มปากเลยว่า หอชมวิวเขาขาด เป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่ง ของจังหวัดภูเก็ต ที่ผู้มาเยือน ต้องประทับใจอย่างแน่นอน หากมาเที่ยวภูเก็ตแล้ว ไม่ได้มาจุดชมวิวที่เขาขาด รับรองจะต้องเสียใจ และเสียดายมาก

คราวนี้ได้ภาพเบลอๆ มาเพื่อนๆ คงไม่ว่ากันนะ เอาไว้คราวหลังมีภาพสวยๆ มาเพิ่มเติมแล้ว จะเอามาใส่ไว้ให้สัญญา ด้วยเกียรติของยุวกาชาดเลยจริงๆ แต่คิดไปคิดมา ได้ภาพเบลอๆ มาก็ดีเหมือนกันนะ เพื่อนๆ จะได้อยากไปดูด้วยตนเอง แบบกระจ่างใสแจ่มแจ๋วไง